1573 จำนวนผู้เข้าชม |
“ทราบหรือไม่ว่าครีมกันแดดที่เห็นกันทั่วไปทุกวันนี้ มีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร และเราเหมาะกับครีมกันแดดประเภทใด” วันนี้ OSB จะพาไปดูกัน!!!
Chemical Sunscreen
ช่วยดูดซับรังสี UV ไว้ ไม่ให้ทะลุผ่านไปสัมผัสกับผิวหนัง เช่นสาร Oxybenzone, Octinoxate, Octisalate ฯลฯ
- ข้อดี
เนื้อบางเบากว่า ทาง่ายใช้ในปริมาณที่น้อยกว่า Physical Sunscreen ในการปกป้องผิวใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นได้ง่ายกว่า เช่น สกินแคร์ หรือ เครื่องสำอาง
- ข้อด้อย
ปกป้องผิวจาก UVB ได้ แต่ UVA อาจไม่ครบทุกชนิดมีโอกาสแพ้/ระคายเคืองมากกว่า โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาทาแล้วต้องรออย่างน้อย 20 นาทีก่อนออกแดด อาจอุดตันรูขุมขน และก่อให้เกิดสิวได้ง่าย เมื่อแช่เย็นจะทำให้แยกชั้นและประสิทธิภาพลดลง
Physical Sunscreen
เป็นเหมือนเกราะสะท้อนรังสี UV ออกไปจากผิวหนัง สารกันแดดแบบ Physical ได้แก่ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide จะอยู่บนผิวหนังโดยไม่ซึมเข้าสู่ผิวนะคะ
ข้อดี
ปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA-I, UVA-II, UVB เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย เด็กและคุณแม่ตั้งครรภ์ใช้ได้ ไม่ตกค้างหรือดูดซึมสู่ผิว ทำให้โอกาสอุดตันรูขุมขนน้อย ทาปุ๊บ ปกป้องผิวปั๊บ ไม่ต้องรอ
- ข้อด้อย
อาจเป็นคราบขาวหรือทำให้รู้สึกหนักหน้าเล็กน้อย เมื่อโดนเหงื่ออาจหลุดออกได้ง่าย ควรเติมระหว่างวันต้องใช้ในปริมาณมากกว่า ในการปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเพียงพอ
Hybrid Sunscreen
กันแดดแบบผสมทั้งคุณสมบัติสะท้อนรังสีของ Physical และดูดซับรังสีของ Chemical เอาไว้ เช่นสาร Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol หรือ Tinosorb M ซึ่งจะรวมข้อดีและข้อด้อยของครีมกันแดดทั้ง 2 แบบเข้าไว้ด้วยกัน
สำหรับชาวผิวแพ้ง่าย ดีที่สุดควรเลือกเป็น Physical Sunscreen นะคะ รองลงมาคือแบบ Hybrid และควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมอย่างน้ำหอม แอลกอฮอล์ ซิลิโคน ทัลค์ หรือสารที่ทำร้ายปะการังอย่าง Oxybenzone, Octinoxate เป็นต้นค่ะ
หากต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์ครีมกันแดด สามารถสอบถามและปรึกษา One Stop Branding ได้ ทางเรามีเจ้าหน้าที่ ที่ยินดีให้บริการผู้ที่เริ่มต้นอยากสร้างแบรนด์
ไม่พลาดข่าวสารดีๆ สอนเทคนิคออนไลน์ กดติดตามไว้นะคะ และถ้าคุณอยากแชร์ความรู้ ให้เพื่อนของคุณ อย่าลืมกดแชร์ให้เราด้วยนะคะ
One Stop Branding | จบ ครบ ในที่เดียว รับผลิตสินค้าพรีเมี่ยมตามความต้องการของคุณ สนใจปรึกษาการสร้างแบรนด์ได้ฟรี ได้ที่ http://m.me/OneStopBrandingTH